การเลือกไมโครโฟนไร้สาย (Wireless Microphone) มาใช้เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยยกระดับเสียงให้คมชัดและมีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การสร้างคอนเทนต์เป็นที่นิยม เราได้รวบรวม 4 รุ่นไมโครโฟนไร้สาย ที่ได้รับความนิยมมาป้ายยาเพื่อน ๆ กันแล้ววว

1. DJI Mic 2 – สำหรับงานระดับมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด

DJI Mic 2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ (Intelligent Noise Cancelling) ที่ทำให้การบันทึกเสียงชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกเสียงแบบ 32-bit float และมีหน่วยความจำในตัว 8GB ที่บันทึกเสียงได้ยาวนานถึง 14 ชั่วโมง

ระยะส่งสัญญาณสูงสุดถึง 250 เมตร และมีหน้าจอ OLED สัมผัสที่ใช้งานง่าย พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น iOS, Android และกล้อง Osmo Pocket 3 หรือ Osmo Action 4 โดยตรง

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับสูง และความมั่นคงในการเชื่อมต่อและบันทึกเสียงในระยะไกล

2. Saramonic Blink500 ProX B2R – สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการตั้งค่าเสียง

Saramonic Blink500 ProX B2R เป็นไมโครโฟนไร้สายที่ยืดหยุ่น สามารถเลือกโหมดการบันทึกเสียงได้ทั้ง Mono และ Stereo ทำให้เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสัมภาษณ์ งานคอนเทนต์ หรือการบันทึกเสียงกลางแจ้ง รองรับความละเอียดเสียง 48kHz/24-bit ให้คุณภาพเสียงที่คมชัด นอกจากนี้ยังมี ช่องหูฟัง 3.5 มม. บนตัวรับสัญญาณ (RX) ฟังเสียงขณะใช้งานได้แบบเรียลไทม์

 จอ LCD ที่ใช้งานง่าย และตัวไมโครโฟนสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง หรือ 8.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดโหมดบันทึกเสียง

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานหลายรูปแบบและต้องการตั้งค่าเสียงที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์

3. Rode Wireless GO II – สำหรับการใช้งานง่ายและสะดวก พร้อมใช้งานได้ทันที

Rode Wireless GO II ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย และไม่มีเมนูซับซ้อน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ในการบันทึกเสียง รองรับการบันทึกเสียงแบบ Omnidirectional พร้อมอินพุตไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้งานได้หลากหลาย

ฟังก์ชันที่น่าสนใจ สามารถเลือกเอาต์พุตเป็น สเตอริโอหรือ Dual-Mono ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน USB เพื่อให้ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง 

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่ามากมาย เหมาะกับการบันทึกเสียงแบบเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน

4. Hollyland Lark M2 Combo – สำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์คุณภาพดีในราคาย่อมเยา

Hollyland Lark M2 Combo เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการไมโครโฟนไร้สายที่มีฟีเจอร์ครบครันในราคาที่เป็นมิตร รุ่นนี้มาพร้อม ระบบตัดเสียงรบกวน Environmental Noise Cancelling (ENC) และรองรับเสียงคุณภาพ Hi-Fi ที่ 48kHz/24-bit สามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจนพร้อมรองรับ SPL สูงสุดถึง 115dB

Battery Case ที่ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงสำหรับกล้อง หรือ 30 ชั่วโมงสำหรับมือถือ มีฟังก์ชัน Knob Control ปรับระดับเสียงได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพา

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการไมโครโฟนไร้สายที่คุ้มค่าคุ้มราคาและสามารถใช้งานได้ยาวนาน เหมาะสำหรับงานที่ไม่ซับซ้อนและต้องการอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานครบครัน

การเลือกไมโครโฟนไร้สายที่เหมาะสมจะช่วยยกระดับคุณภาพเสียงในงานของคุณ ลองพิจารณาจากลักษณะงานและงบประมาณ เพื่อให้ได้ไมโครโฟนที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับการใช้งาน

ใส่ความเห็น