3 สิ่งที่ช่วยสร้างแรงจูงใจ ในการทำเพลง

        เคยเจอรึเปล่า ศัตรูคนสำคัญของคนทำเพลง หรือเรียกอีกอย่างว่า อาการคิดอะไรไม่ออก สมองเหมือนเจอทางตัน นั่นเอง บางคนนั่งเสียเวลาเป็นวัน ๆ บางคนก็นั่งเสียเวลาเป็นสัปดาห์ไปเปล่าๆ โดยที่งานไม่คืบหน้า กว่าจะคิดออกอีกทีก็ใกล้ Deadline ต้องมานั่งปั่นงานกันจนถึงวินาทีสุดท้าย จนบางครั้งทำให้ไม่มีเวลาตรวจเช็คคุณภาพ บางครั้งอาจไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ผลงานที่ออกมาอาจจะไม่ถูกใจทั้งคนฟัง ทั้งคนแต่ง ระยาวก็อาจทำให้ท้อ จนไม่อยากแต่งเพลงต่ออีกเลย แล้วจะหาทางออกของปัญหานี้ได้ยังไงกัน ? จากหัวข้อหนึ่งในงาน TEDGlobal เมื่อปี 2011 Dan Pink ได้นำเสนอในเรื่องของ Motivation ว่าแรงจูงใจในการทำงานนั้นมาจาก 3 อย่าง 1. เป้าหมาย (Purpose) การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีแรงจูงใจในการทำงาน เช่นถ้าเรากำลังจะแต่งเพลงจีบสาว การแต่งเพลงให้จบคงไม่ใช่เรื่องยากเลย และสำหรับในการทำงานหากลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็จะทำให้คุณรู้สึกดีที่ได้เติมเต็มความต้องการนั้น หรือเมื่องานเสร็จ เพลงจบ ได้มีโอกาสแชร์ให้หลายๆ คนได้ฟัง มีคนชื่นชม ตอบรับในผลงาน เพียงเท่านั้นก็นับว่าเป็นเป้าหมายได้เช่นกันครับ 2. เชี่ยวชาญ (Mastery) ทำอะไรที่ถนัด ไม่ง่ายจนน่าเบื่อหรือยากจนท้อ เพราะบางครั้งหากทำอะไรที่ยากเกินไปและไม่ถนัดด้วยแล้วอาจทำให้เราท้อ หรือกดดันตัวเองจนบางครั้งไม่กล้าที่จะลงมือทำ แต่ถ้าทำอะไรที่ง่ายจนเกินไปอาจทำให้เรามีโอกาสที่จะพัฒนาฝีมือต่อได้น้อยนั่นเอง 3. ไม่ถูกควบคุม (Autonomy) อิสระนี่แหละครับสำคัญมาก ยิ่งมนุษย์ส่วนมาก โดยเฉพาะศิลปินอย่างเราไม่ชอบการถูกควบคุมหรือกดดัน และเมื่อถูกควบคุมก็จะรู้สึกไม่อยากทำ Dan Pink ได้นำเสนอสถานะที่มีชื่อเรียกว่า Over-Justification Effect สถานะนี้ ได้ถูกทดลองในปี 1973 . ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเคยทำเพลงจากแรงบันดาลใจของตัวเอง ทำเป็นงานอดิเรกไม่ได้รับเงินจากใคร คุณก็สามารถทำได้เรื่อย ๆ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป คุณทำเพลงแล้วได้เงินทุกครั้ง แรงจูงใจของคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนจากภายในไปสู่ภายนอกซึ่งในกรณีนี้คือค่าจ้าง ดังนั้นความอยากทำงานของคุณอาจจะเริ่มแปรผันตามค่าจ้าง ถ้าวันนึงมีคนมาจ้างคุณทำเพลงด้วยราคาที่น้อยลงกว่าปกติมากๆ หรืออาจจะไม่ได้มีค่าจ้าง คุณอาจจะรู้สึกไม่ค่อยมีแรงจูงใจในการรับงานนั้นเท่าไหร่         สุดท้ายนี้การจัดการศัตรูคนสำคัญของคนทำเพลงอย่าง Creative Block นั้น นอกจากทั้ง 3 สิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว ความสม่ำเสมอก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจที่ทำให้ประสบความสำดร็จได้ครับ แม้ว่างานที่ออกมาในระยะแรก ๆ อาจจะยังไม่เป็นที่พอใจนัก แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ฝึกฝน พัฒนา ได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น ProPlugin ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวดนตรีทุกท่านครับ

ใส่ความเห็น