MP3 ไฟล์เพลงในตำนาน ที่อยู่ในใจคนฟังเพลงหลายคน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะจำชื่อ MP3 กันได้ดี เพราะเป็นผู้สร้างวิกฤตให้กับค่ายเพลงในเมืองไทยอย่างแท้จริง จนทำให้พี่เสก โลโซ ต้องแต่เพลง “พันธุ์ทิพย์” เพื่อรณรงค์ให้คนไม่ไปห้างพันธุ์ทิพย์ ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ในการขายแผ่นเพลงเถื่อน ซึ่งเพลงนี้ก็ดังมาก ๆ จนแผงขายแผ่นเถื่อนในพันธุ์ทิพย์ เปิดให้คนฟังกันทุกร้าน แถมคนไปเดินก็ไม่มีวี่แววจะลดลงจน GMM Grammy ต้องหันมาปรับกลยุทธ์ใหม่ในการจัดจำหน่ายเพลง

ถึงแม้ว่ากระแส MP3 ในบ้านเราจะแทบเลือนหายไปแล้ว ด้วยกระแสการฟังเพลงแบบ Streaming ที่มาแรงกว่า แต่มันก็มีสิ่งสำคัญที่น่าสนใจในที่มาของฟอร์แมตเพลงในตำนานตัวนี้



ประวัติของไฟล์เพลง MP3

จุดกำเนิดของ MP3 เกิดขึ้นจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Moving Picture Experts Group” ซึ่งประกอบไปด้วยวิศวกรจากสถาบันชั้นนำ เช่น Fraunhofer IIS, University of Hannover, AT&T-Bell Labs, Thomson-Brandt, CCETT และอื่น ๆ มารวมตัวกัน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของ Digital Content

ความจริงแล้ว MP3 เกิดขึ้นมาเพราะอินเทอร์เน็ตนี่แหละ ด้วยเหตุที่ความเร็วของอินเทอร์เน็ตสมัยก่อนค่อนข้างช้ามาก ๆ แตะระดับ 9600kbps-14400kps เลยทีเดียว ซึ่งตัวจุดประกายในตอนแรกที่ทำ MP3 ขึ้นมา ก็เพราะต้องการทำระบบคุยโทรศัพท์ในแบบ Digital ผ่าน ISDN ซึ่งก็ตั้งใจจะเสริมในส่วนของการส่งเพลงผ่าน ISDN ไปด้วยเลย 

แต่กว่าจะได้เป็น MP3 แบบทุกวันนี้ ก็ผ่านการทดลองและทดสอบมามากมาย และการที่ไฟล์เพลงนี้เป็นที่ยอมรับในทุกวันนี้ เพราะขนาดที่เล็ก ใช้พื้นที่เก็บน้อย คุณภาพเสียงดี ทำให้สะดวกในการส่งข้อมูลให้คนอื่น และยังเก็บเพลงได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ไฟล์ MP3 ถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง คือ Mpeg-1 Audio Layer3 นะครับ จริง ๆ มันมีการใช้เทคนิคบีบอัดของ MPEG-2 ออกมาด้วย ซึ่งก็จะเป็น MPEG-2 Audio Layer 3 และใช้นามสกุล MP3 เช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ได้ชื่อ MPEG นำหน้า เนื่องมาจากมันใช้เทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลของ MPEG-1 และ MPEG-2 โดยไฟล์ MP3 นั้นใช้เทคนิคบีบอัดในแบบ Lossy ซึ่งจะไปนำเอาย่านเสียงที่เกินกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยินออก ลักษณะจะคล้าย ๆ กับเทคนิคของ JPEG และเมื่อนำเสียงที่ไม่จำเป็นออกไป ก็ทำให้ขนาดของไฟล์เล็กลงกว่าเดิมมาก ๆ นั่นเอง


ใส่ความเห็น