ถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การทำพอดแคสต์ สตรีมมิ่ง หรือโปรเจกต์ดนตรีของคุณไหลลื่น TASCAM Mixcast 4 และ RØDECaster Pro II คือตัวเลือกที่โดดเด่นทั้งคู่! แต่ว่า...แต่ละตัวมีจุดเด่นอะไรบ้าง แล้วแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด? มาดูกันเลย!
จุดเด่นของแต่ละรุ่น
TASCAM Mixcast 4
ฟีเจอร์เด็ด:
- รองรับพอดแคสต์แบบกลุ่ม สูงสุด 7 คน
- มี 4 อินพุตไมโครโฟน และ 4 เอาต์พุตหูฟัง
- แผ่นเสียงปรับแต่งได้ 8 ปุ่มสำหรับเล่นเอฟเฟกต์เสียง
- ระบบบันทึกหลายแทร็ก ลง SD การ์ด ได้สูงสุด 14 แทร็ก
- หน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว ใช้งานง่าย
- Auto-Mix ปรับเสียงอัตโนมัติให้ลงตัวทุกครั้ง
RØDECaster Pro II
ฟีเจอร์เด็ด:
- Revolution Preamps™ ให้เสียงใสสุด ๆ ไม่ต้องใช้บูสเตอร์
- SMART Pads 8 ปุ่ม พร้อมรองรับ MIDI และปรับแต่งได้ถึง 64 แอ็กชัน
- การประมวลผลเสียงระดับสตูดิโอ ด้วย APHEX® Audio Processing
- เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ด้วย USB-C สองพอร์ต
- หน้าจอสัมผัส 5.5 นิ้ว พร้อม Haptic Feedback
- อัปเดตเฟิร์มแวร์ได้เรื่อย ๆ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ตลอด
ถ้าคุณเป็น มือใหม่ ที่อยากได้อะไรที่ใช้งานง่าย ครบทุกฟังก์ชันแบบไม่ต้องปวดหัว TASCAM Mixcast 4 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในราคาที่เป็นมิตร
แต่ถ้าคุณเป็น สายโปร หรือคนที่ต้องการการปรับแต่งเสียงแบบละเอียดที่สุด พร้อมฟีเจอร์ทันสมัย RØDECaster Pro II คือคำตอบที่ใช่
ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวไหน ทั้งสองรุ่นก็ช่วยให้การทำคอนเทนต์ของคุณลื่นไหล และน่าสนใจยิ่งขึ้น!