เครื่องหมาย “b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” ในคอร์ดเพลงคืออะไร
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนว่าเนื้อหาต่อไปนี้เป็นเนื้อหาสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาดนตรี หากผู้ที่มีพื้นฐานทฤษฎีดนตรีอยู่แล้วก็สามารถคอมเมนต์เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้เลย
คนเริ่มต้นเล่นดนตรีหลายๆคนคงจะงงว่าเจ้าเครื่องหมาย “b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” เนี่ยมันคืออะไร มันสำคัญอย่างไรทำไมต้องมีเครื่องหมายนี้อยู่ ?
“b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” เป็นเครื่องหมายที่เรียกว่า “Accidentals” ใช้กำกับกับตัวโน้ตหรือคอร์ดการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของความสูงต่ำของเสียง หรือบางครั้งจะพบในลักษณะของการกำหนดคีย์เพลง
“b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
ก่อนที่จะรู้ว่าใช้งานยังไง ก็ต้องรู้ก่อนว่าช่วงของตัวโน้ตมีการแบ่งเสียงยังไง เราขออธิบายง่ายๆเลยว่า ปกติแล้วตัวโน้ต “โดต่ำ ไปหา โดสูง” จะแบ่งเป็นจำนวน 12 ครึ่งเสียง
ยกตัวอย่าง >>> ตัวโน้ต “โดต่ำ ไปหา เรต่ำ” จะมี 2 ครึ่งเสียงหรือเท่ากับ 1 เสียง
ทีนี้ระหว่าง “โดต่ำ กับ เรต่ำ” นั้นจะมีโน้ตครึ่งเสียงที่อยู่ตรงกลางอยู่
ต่อมาเราจะอธิบายต่อว่า “b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” ใช้ยังไง
b (แฟลต) จะเป็นสัญลักษณ์การลดลงครึ่งเสียง
# (ชาร์ป) จะเป็นสัญลักษณ์การเพิ่มขึ้นครึ่งเสียง
แสดงว่า “โดต่ำ ไปหา เรต่ำ” ที่มีโน้ตครึ่งเสียงอยู่ตรงกลางนั่นคือโน้ตที่ “สูงขึ้นจากโดต่ำครึ่งเสียง นั่นคือ โดชาร์ป(C#) หรือโน้ตครึ่งเสียงที่ถอยจากเรต่ำไปหาโดต่ำคือ เรแฟลต(Db) (โน้ตโดชาร์ปกับเรแฟลตคือโน้ตที่มีเสียงเดียวกัน ในทางปฏิบัติจะคิดว่าเป็นโน้ตตัวเดียวกันก็ได้)
ซึ่งเราจะเอาวิธีใช้เครื่องหมาย “b (แฟลต) กับ # (ชาร์ป)” แบบตัวโน้ตมาใช้กำกับคอร์ดเช่นกัน เช่น คอร์ดที่เสียงสูงกว่าคอร์ด D อยู่ครึ่งเสียงคือคอร์ด D# และคอร์ดที่มีเสียงต่ำกว่าคอร์ด D ครึ่งเสียงคือคอร์ด Db นั่นเอง