จริงหรือไม่? สาย M2M

ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นได้

 
เชื่อว่าหลายคนคงสงสัย “สายเชื่อมต่อจาก DAC หรือจาก DAP เข้าสู่ Amp แบบราคาถูกกับแพง มีความแตกต่างกันอย่างไร?” ในเมื่อมันก็แค่สายรับสัญญาณธรรมดา ๆ ไม่น่าจะมีผลอะไรกับเสียง ทำไมถึงมีคนลงทุนซื้อสายแพง ๆ มาใช้ วันนี้ ProPlugin HIFI จะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนได้ทราบกันครับ
 
ปกติสายแบบ M2M (Mini to Mini) หรือสายแบบ Jack 3.5 ทั้งสองฝั่งนั้น จะทำหน้าที่เป็นสายสำหรับส่งสัญญานเสียงจาก DAC หรือ DAP เข้าสู่แอมป์นั้น จริง ๆ แล้ว เสียงจะเปลี่ยนไปตามวัสดุที่เลือกใช้มาทำสาย และยังมีเทคนิคการออกแบบสายหลาย ๆ อย่าง ก็สามารถทำให้คุณภาพเสียงเปลี่ยนไปได้จริง
 
สำหรับใครที่สงสัยว่า ทำไมเสียงถึงเปลี่ยนได้ อันนี้เราต้องอย่าลืมว่า ปกติภาค Amp จะทำหน้าที่ในการขยายเสียงออกมา และเสียงที่ถูกขยายก็คือเสียงที่มาจาก DAP หรือ DAC ที่วิ่งผ่านสายก่อนเข้าตัว Amp นั่นเอง ทำให้กระบวนการสัญญานไฟฟ้าเปลี่ยนไป เพราะวัสดุแต่ละอย่างจะมีความสามารถในการนำไฟฟ้าไม่เท่ากัน สายแบบไหนที่ใช้เงินเป็นตัวกลางก็จะนำไฟฟ้าไว ทำให้ได้เสียงที่คมชัด และกระฉับกระเฉง
 
ส่วนสายที่ตัวกลางเป็นทองแดง จะให้เสียงที่อิ่ม หนา และเบสเยอะ เนื่องจากสัญญานไฟฟ้าเดินทางได้ช้ากว่าเงิน จึงเกิดเอฟเฟคดังกล่าวขึ้น นักออกแบบสาย M2M ก็จะมีเทคนิคมากมาย เพื่อปรุงแต่งให้เสียงที่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการ ตั้งแต่การเลือกใช้สายเคลือบ เช่น ทองแดงเคลือบเงิน หรือเงินเคลือบทอง เป็นต้น ซึ่งการผสมผสานแบบนี้ ก็จะทำให้ลักษณะเสียงเปลี่ยนไปตามวัสดุที่ถูกออกแบบไว้
 
ดังนั้นการเลือกสายมาใช้กับอุปกรณ์ของเรา ก็ควรจะเลือกจากวัสดุที่นำมาใช้ทำสายด้วย เพราะถ้าชุด System รวมถึงหูฟังแหลมจัดจนเกินไป การนำเอาทองแดงมาเป็นสาย M2M ก็จะใช้ให้มันกลมกล่อมขึ้นมาได้ การซื้อสายแบบนี้จึงไม่ควรเลือกจากที่คนใช้แล้วบอกว่าดี เพราะคำว่าดีของเขา อาจจะไม่ได้ดีกับ System ของเราก็เป็นได้ครับ

ใส่ความเห็น