Universal Audio เปิดตัว Apollo X Gen 2 มาพร้อมการเพิ่มฟีเจอร์ที่ยกระดับการใช้งาน เกิดเป็นคำถามต่อเพื่อน ๆ หลายคนว่ารุ่นใหม่มีอะไรเพิ่มหรือต่างจากรุ่นเก่าบ้าง ?
นี่คือการเปรียบเทียบฟีเจอร์หลักของทั้งสองรุ่น เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Gen 1 และ Gen 2
การปรับปรุงด้านคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพ
Apollo X Gen 2 มาพร้อมกับ D/A converters ระดับสูง 24-bit / 192kHz ที่แม่นยำและมีความละเอียดสูงกว่าเดิม ซึ่งให้เสียงที่คมชัดมากขึ้น เหมาะสำหรับการมิกซ์และมาสเตอร์ในระดับมืออาชีพ
ความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ
Apollo X Gen 2 ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับและคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างราบรื่นและเสถียร นอกจากนี้ยังคงมีรุ่น Twin X USB และ Solo USB สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกจากการเชื่อมต่อ USB
ชุด Plug-In UAD ใหม่ที่หลากหลาย
- Apollo X Gen 2 มี Antares Auto-Tune เป็นปลั๊กอินมาตรฐานในทุกรุ่น พร้อมตัวเลือกชุด Essentials+ Edition หรือ Studio+ Edition
- สำหรับรุ่น Apollo x16 และ x16D มีตัวเลือก Ultimate+ Edition ให้เลือก ซึ่งรวมปลั๊กอิน UAD กว่า 100 รายการ ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่ต้องการความหลากหลายของปลั๊กอินสำหรับการบันทึกเสียง
ฟีเจอร์ใหม่ที่มีใน Apollo X Gen 2 แต่ไม่มีใน Gen 1
Monitor Correction Powered By Sonarworks
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำเข้าโปรไฟล์การปรับแต่งเสียงของ Sonarworks SoundID Reference เข้ามาใน Apollo DSP ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้การปรับจูนเสียงลำโพง หูฟัง และสภาพแวดล้อมห้องเป็นไปอย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์
Assistive Auto-Gain
Apollo X Gen 2 มาพร้อมกับ Assistive Auto-Gain ซึ่งช่วยให้การตั้งค่า Gain เป็นเรื่องง่ายเพียงคลิกเดียว โดยจะตั้งค่า Gain อัตโนมัติในทุกช่องสัญญาณ รวมถึงการจำลองพรีแอมป์ Unison จากแบรนด์ชื่อดังอย่าง API, Neve และ SSL ฟีเจอร์นี้ช่วยลดขั้นตอนการตั้งค่าและช่วยให้การบันทึกเสียงมีความแม่นยำโดยไม่ต้องกังวลเรื่องระดับสัญญาณเกินหรือขาด
Subwoofer Bass Management
Gen 2 มาพร้อมระบบจัดการซับวูฟเฟอร์ (Bass Management) สำหรับการมอนิเตอร์แบบเต็มย่านเสียง (Full-Range) ทั้งในโหมดสเตอริโอและเซอร์ราวด์ ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่า Trim, Mute, Solo และ Crossover สำหรับแต่ละลำโพงได้อย่างอิสระ
Alt Monitoring สำหรับโหมด Surround
Apollo X Gen 2 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Alt Monitoring ซึ่งรองรับการสลับโหมดมอนิเตอร์ระหว่าง Immersive และ Stereo ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานกับระบบเสียงมัลติแชนเนลได้อย่างสะดวกสบาย
Plug-In Scenes
ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าปลั๊กอินหลายช่องสัญญาณใน UAD Console ได้ทันที ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานแสดงบนเวที สามารถควบคุมปลั๊กอินผ่าน MIDI และสลับการตั้งค่าปลั๊กอินได้อย่างรวดเร็ว
Apollo X Gen 2 เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดจาก Universal Audio ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงมีความแม่นยำและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Monitor Correction, Assistive Auto-Gain, Bass Management และ Alt Monitoring ทำให้ Apollo X Gen 2 เป็นตัวเลือกที่ยกระดับให้กับนักดนตรีและโปรดิวเซอร์หลาย ๆ คนที่ต้องการอุปกรณ์การทำงานที่ครบครันและทันสมัย