เคยสงสัยกันไหมว่า ถ้าเราอยากมิกซ์เสียงบางอย่าง ควรจะใช้ EQ ปรับ Curves แบบไหน แล้วแต่ละแบบเนี่ยช่วยอะไรบ้าง ProPlugin พาคำตอบมาให้เพื่อน ๆ ทำความเข้าใจและทำไปใช้กันแล้ว


Bell Curve (Peaking Filter)
เป็นแบบที่ใช้งานกันบ่อยๆ สามารถลดหรือเพิ่มช่วงความถี่รอบๆและความถี่ที่เราต้องการได้ โดยสามารถเพิ่มลดฐานของความถี่ด้วยใช้ค่า Q ลักษณะรูปทรงจะคล้ายๆระฆัง สามารถแก้ปัญหาเฉพาะจุดหรือปรับได้อย่างเฉพาะเจาะจง ใช้ในเครื่องดนตรีหรือเสียงร้อง

High-Pass Filter (HPF)
เป็นฟิลเตอร์นึงที่ใช้เยอะเช่นกันเรียกอีกอย่างนึงว่า Low-cut โดยจะทำการลดความถี่จากที่เราต้องการ และ Slope ลงไปตามที่ค่า dB/Octave ที่เรากำหนดได้ และยอมให้ความถี่ที่สูงกว่าผ่านไปได้ มีประโยชน์ในการนำเสียงย่านต่ำที่ไม่จะเป็นออกไปและเหลือพื้นที่ให้เบสและกระเดื่อง ทำให้ย่านเสียงต่ำมีความสะอาดและเหลือพื้นที่มากขึ้น ลดความขุ่นมัว

Low-Pass Filter (LPF)
ในทางกลับกัน LPF จะเป็นการลดความถี่ที่สูงกว่าที่เรากำหนดและยอมให้ความถี่ที่ต่ำกว่าผ่านไปได้ เรียกอีกอย่างนึงว่า High-cut มีประโยชน์ในการลดความรุนแรงของเสียง และนิยมใช้เป็นเอฟเฟคที่ทำให้เสียงมีความอู้มากขึ้น เพลงบางเพลงใช้ในการสร้างสีสันช่วงต้นและค่อยๆคืนค่าให้เพลงกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ซึ่งแล้วแต่การประยุกต์ใช้ของแต่ละคน

High Shelf
จะเป็นการเพิ่มหรือลดย่านความถี่ที่สูงกว่าจุดที่เราตั้งค่า ซึ่งจะไม่เหมือนกับ HPF ที่จะลดย่านที่เหนือกว่าลงในลักษณะ Slope ลง แต่ High Shelf จะเป็นการเพิ่มหรือลดความถี่เมื่อถึงจุดนึงจะมีความนิ่งและสม่ำเสมอ ตามภาพประกอบ ซึ่งนิยมใช้ในการเพิ่มเสียงให้มีความใสและสว่าง

Low Shelf
คล้ายๆกับ High Shelf แต่ Low Shelf จะเป็นการเพิ่มหรือลดความถี่ที่ต่ำกว่าจุดที่เราตั้งค่าดังภาพประกอบ นิยมใช้เพื่อเพิ่มความอุ่นหนาให้กับเสียง

Notch Filter
มีประโยชน์มากในการลดความที่โดยเฉพาะเจาะจง เช่น เสียงฮัม, เสียงก้อง, เสียงจี่ สามารถกวาด (Sweep) หาความถี่ที่เราไม่ได้ต้องการและลดมันลงมาได้ ทำให้เสียงมีความชัด สะอาด และมีคุณภาพมากขึ้น

Band Pass Filter
อาจจะใช้กันน้อยกว่าในการมิกซ์เสียงแบบทั่วไป แต่ก็มีประโยชน์สำหรับการสร้างเอฟเฟคเฉพาะเช่น การสร้างเสียงที่ "เหมือนโทรศัพท์" โดยการให้ช่วงย่านความถี่กลางผ่านไปได้เพียงช่วงเดียว (จะคล้ายๆกับการใช้ HPF และ LPF โดยให้เหลือแค่พื้นที่ช่วงย่านที่ต้องการผ่านไปได้)

Tilt EQ
จะเป็นการบาลานซ์ระหว่างความถี่เช่นเมื่อเพิ่มในย่านนึง เราก็จะลดในย่านที่ตรงข้ามกันเพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับเสียง นิยมใช้เพิ่มปรับ Tone ของเสียงให้มีความสมดุลกัน
และนี่ก็เป็น EQ Curves ที่ทางทีมงานรวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันนะครับ หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆนะครับผม ยังไงฝากกดไลค์และแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินและทีมงานด้วยนะค๊าบบ แล้วเจอกันในคอนเทนต์ถัดไปครับ