Universal Audio ตอกย้ำคุณภาพของออดิโออินเตอร์เฟซด้วยการเปิดตัว Apollo X Gen 2 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และอัพเกรดประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ยกระดับทั้งการบันทึกเสียงและการมิกซ์เสียง

จุดเด่นใหม่ใน Apollo X Gen 2

Assistive Auto-Gain

ฟีเจอร์ Assistive Auto-Gain ช่วยให้การตั้งค่า Gain ในการบันทึกเสียงเป็นไปอย่างราบรื่น Apollo X Gen 2 จะปรับระดับ Gain อัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงที่เหมาะสม ช่วยลดความยุ่งยากในการตั้งค่า และเพิ่มความมั่นใจในการบันทึกเสียง ทำให้กระบวนการทำงานสะดวกขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักดนตรีและโปรดิวเซอร์ที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำในการบันทึกเสียง

Monitor Correction ด้วย Sonarworks SoundID

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ Apollo X Gen 2 โดดเด่น คือระบบ Monitor Correction ที่สามารถปรับจูนเสียงตามโปรไฟล์ของ Sonarworks SoundID Reference ซึ่งช่วยปรับเสียงให้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการมิกซ์เสียงในห้องหรือการใช้งานกับหูฟัง รองรับการใช้งานในแบบเรียลไทม์ โดยระบบนี้จะเปิดให้ใช้งานใน Q4 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Sonarworks ถูกฝังเข้ามาในตัวอุปกรณ์ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาปลั๊กอินเพิ่มเติมในโปรเจกต์เสียง

Bass Management ที่ตั้งค่าใช้งานง่าย

เสียงเบสสามารถปรับตั้งค่าได้ง่าย รองรับการทำงานทั้งในโหมดสเตอริโอและเซอร์ราวด์ ผู้ใช้สามารถปรับ Crossover ได้หลายระดับ (80, 100 หรือ 120 Hz) อีกทั้งยังสามารถเลือกการปรับระดับเบสสำหรับการมิกซ์ภาพยนตร์ได้เช่นกัน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ซับวูฟเฟอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เสียงต่ำมีพลัง และให้ความรู้สึกที่สมดุลมากขึ้น

มาพร้อมแพ็กเกจซอฟต์แวร์ ให้ได้เลือกตามการใช้งาน

Apollo X Gen 2 มาพร้อมกับตัวเลือกแพ็กเกจซอฟต์แวร์หลายระดับที่ให้ความหลากหลายในการใช้งาน:

  • Essentials+ Edition: รวม Auto-Tune Access และปลั๊กอิน UAD พื้นฐานกว่า 20 รายการ
  • Studio+ Edition: มาพร้อม Auto-Tune Realtime X และปลั๊กอิน UAD กว่า 50 รายการ
  • Ultimate+ Edition: สำหรับรุ่น x16 และ x16D โดยเฉพาะ พร้อม Auto-Tune Realtime X และปลั๊กอิน UAD กว่า 100 รายการ

การออกแบบใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพ

Apollo X Gen 2 ได้รับการออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพเสียงให้เหนือชั้นกว่าเดิม ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

  • ดีไซน์ใหม่: Universal Audio ได้ปรับโฉม Apollo X Gen 2 ด้วยการออกแบบที่หรูหราและทันสมัย ปุ่มควบคุมและตัวเครื่องมีความละเอียดอ่อนและโดดเด่นกว่าเดิม เหมาะกับสตูดิโอมืออาชีพ
  • คุณภาพเสียงที่สูงขึ้น: ในรุ่น Gen 2 มีการพัฒนาตัวแปลงสัญญาณ D/A (Digital-to-Analog Converter) และปรับปรุงช่องต่อหูฟังให้มีความคมชัดและตอบสนองเสียงได้แม่นยำขึ้น ลดค่า THD (Total Harmonic Distortion) และเพิ่มค่า DNR (Dynamic Range) ช่วยให้เสียงมีคุณภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น

รุ่นที่มีให้เลือกใน Apollo X Gen 2

Apollo X Gen 2 มีให้เลือกทั้งแบบ Desktop และ Rackmount เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระดับที่แตกต่างกัน ดังนี้:

Desktop Units:

  • Apollo Twin X DUO/QUAD: เหมาะสำหรับสตูดิโอขนาดเล็กหรือการพกพา มีตัวเลือก Essentials+ และ Studio+
  • Apollo x4 QUAD: ตัวเลือก Essentials+ และ Studio+ รองรับการประมวลผลที่สูงขึ้น

Rackmount Units:

  • Apollo x6 HEXA: สำหรับสตูดิโอระดับกลาง มี DSP 6 Cores
  • Apollo x8 HEXA และ x8p HEXA: เพิ่ม I/O และรองรับ DSP 6 Cores สำหรับการประมวลผลที่สูงขึ้น
  • Apollo x16 HEXA : สำหรับมืออาชีพที่ต้องการ I/O สูงสุด 
  • Apollo  x16D HEXA : รองรับ Dante ในรุ่น x16D เหมาะกับการใช้งานในสตูดิโอที่ต้องการความสามารถในการบันทึกเสียงหลายช่องทางพร้อมกัน

Universal Audio Apollo X Gen 2 เป็นออดิโออินเตอร์เฟซที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกระดับ โดยมีฟีเจอร์ที่ทันสมัย ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งในด้านการบันทึกเสียงและการมิกซ์ในระดับมืออาชีพ ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Assistive Auto-Gain, Monitor Correction ที่รองรับ Sonarworks SoundID, Bass Management และแพ็กเกจปลั๊กอิน UAD ที่มีให้เลือกตามความต้องการใช้งาน ควบคู่กับการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้ Apollo X Gen 2 เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับนักทำเพลงและนักดนตรีที่ต้องการคุณภาพสูงสุดในงานเสียง

Leave a Reply