เลือกประเภท Reverb อย่างไรให้เหมาะกับงานของคุณ

Reverb เป็นเอฟเฟกต์เสียงที่จำลองการสะท้อนของเสียงที่เกิดจากการกระทบต่อพื้นผิวต่างๆ เช่น ผนัง, เพดาน หรือพื้น โดยที่เสียงจะสะท้อนกลับมาที่หูของผู้ฟังหลังจากที่เสียงต้นฉบับหยุดดัง เอฟเฟกต์นี้ทำให้เสียงมีความรู้สึกของมิติและพื้นที่มากขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ให้ถูกกับงานจึงมีความสำคัญอย่างมาก จะมี Reverb แบบไหนบ้าง ProPlugin ยกมาให้แล้ว

1. Plate Reverb 

จำลองเสียงสะท้อนจากแผ่นโลหะขนาดใหญ่ที่มักใช้ในสตูดิโอเพลงมืออาชีพ

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับเสียงร้องและกลอง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและลึกโดยไม่ทำให้เสียงในมิกซ์อุดอู้
  • ข้อดี: ทำให้ซาวด์เอ็นและโปรดิวเซอร์สามารถออกแบบ Character ของรีเวิร์บได้อย่างแม่นยำปรับแต่งได้ละเอียด ตั้งแต่การเพิ่มอารมณ์เล็กน้อยไปจนถึงเอฟเฟกต์ที่เห็นได้ชัดเจนและเหนือจริง

2. Room Reverb

จำลองการสะท้อนเสียงภายในห้อง ช่วยให้การบันทึกเสียงมีความรู้สึกเหมือนเกิดขึ้นในห้องจริง ๆ 

เป็นอีกหนึ่งประเภทที่นิยมใช้ในการสร้างและการออกแบบเสียง

  • การใช้งาน: ใช้เพื่อเพิ่มมิติและความรู้สึกของพื้นที่จริงในการบันทึกเสียง
  • ข้อดี: ช่วยให้การบันทึกเสียงฟังดูมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกในห้องจริง

3. Hall Reverb

จำลองเสียงสะท้อนในห้องโถงขนาดใหญ่ เช่น ฮอลล์คอนเสิร์ตหรือโอเปร่า สร้างบรรยากาศที่กว้างขวางและมีมิติ

  • การใช้งาน: เพิ่มความอลังการและความลึกให้กับเสียงดนตรีและเสียงร้อง
  • ข้อดี: เสียงที่ออกมามีความอบอุ่นและมีชีวิตชีวา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเสียงดนตรีคลาสสิค ออร์เคสตรา หรือการบันทึกที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกของพื้นที่และความหรูหรา

4. Chamber Reverb

จำลองการสะท้อนเสียงในห้องขนาดเล็กหรือปานกลางที่ออกแบบสำหรับการบันทึกเสียงโดยเฉพาะ เช่น ห้องบันทึกเสียงในสตูดิโอ

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับเครื่องดนตรีต่างๆ เช่น เสียงสาย หรือเสียงร้อง ที่ต้องการเพิ่มความแน่นและความอบอุ่นให้กับการบันทึกเสียง
  • ข้อดี: ให้ความรู้สึกของความใกล้ชิดและทำให้เสียงมีความสมจริงมากขึ้น

การเลือก Reverb ที่ดี ล้วนขึ้นอยู่กับลักษณะของเพลงและเสียงที่เพื่อน ๆ ต้องการบันทึก การทดลองใช้และปรับแต่ง Reverb ประเภทที่ต่างกันจะช่วยให้หาความรู้สึกที่ต้องการได้!

เพื่อน ๆ สามารถลองนำไปประยุกต์ใช้ดูกันนะครับ

Leave a Reply