ไมโครโฟนหลอด (Tube Microphone) เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงที่มีความอุ่น ลึก และรายละเอียดที่คมชัด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกเสียงร้องและเครื่องดนตรี เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ProPlugin ได้หยิบ 5 รุ่นน่าสนใจมาเปรียบเทียบกันให้ดูเลย จะมีรุ่นไหนถูกใจบ้าง มาดูกันเลยย
Tube - Mic คืออะไร ?
Tube Microphone หรือ ไมโครโฟนหลอด คือไมโครโฟนที่ใช้หลอดสูญญากาศ (Vacuum Tube) เป็นส่วนหนึ่งของวงจรภายในสำหรับการประมวลผลสัญญาณเสียง ไมโครโฟนประเภทนี้มีคุณสมบัติที่ให้เสียงอบอุ่น นุ่มนวล และมีความเป็นธรรมชาติสูง เนื่องจากหลอดสูญญากาศช่วยให้การตอบสนองต่อเสียงมีความไหลลื่น มีฮาร์โมนิก (Harmonic) ที่นุ่มลึก ซึ่งเหมาะกับการบันทึกเสียงร้องและเครื่องดนตรีในสตูดิโอระดับมืออาชีพ
1. sE Electronics Gemini II – เสียงใหญ่ ละเอียด และเต็มอิ่ม
sE Electronics Gemini II เป็นไมโครโฟนหลอดสองตัว (Dual-Valve) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้เสียงที่ใหญ่และเป็นธรรมชาติ หลอด 12AX7 ในภาคอินพุตและหลอด 12AU7 ในภาคเอาท์พุตทำให้เสียงที่ได้มีความอุ่นละมุน เหมาะกับการบันทึกเสียงร้องและเครื่องดนตรีหลายชนิด เช่น กลองชุด เครื่องสาย และเปียโน
จุดเด่น:
- หลอดสุญญากาศคู่เพื่อความละเอียดและเสียงที่เป็นธรรมชาติ
- ฟิลเตอร์ตัดความถี่ต่ำและแผ่นลดเสียง (-10dB pad) เพื่อจัดการกับแหล่งเสียงที่ดัง
- รูปแบบการรับเสียงแบบ cardioid
เหมาะสำหรับ: เสียงร้อง, กลองชุด, เครื่องสาย, เปียโน และห้องบันทึกเสียงที่ต้องการเสียงที่ใหญ่และอุ่น
2. sE Electronics Z5600a II – ความอเนกประสงค์ระดับสูง
sE Electronics Z5600a II เป็นไมโครโฟนหลอดที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากมี 9 รูปแบบการรับเสียงที่สามารถเลือกได้จาก Omni, Cardioid ไปจนถึง Figure-8 เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายทั้งในการบันทึกเสียงร้อง กลอง โอเวอร์เฮด และห้องบันทึกเสียงขนาดใหญ่
จุดเด่น:
- สามารถเลือกการรับเสียงได้ถึง 9 รูปแบบ
- มีฟิลเตอร์ตัดความถี่ต่ำ (50Hz) และแผ่นลดเสียง (-10dB Pad)
- โครงสร้างแข็งแรง พร้อมแคปซูลคอนเดนเซอร์ที่ทำด้วยมือ
เหมาะสำหรับ: เสียงร้อง, เครื่องสาย, กลองโอเวอร์เฮด, เครื่องดนตรี และการบันทึกเสียงในสตูดิโอ
3. Rode K2 – ไมโครโฟนหลอดที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่น
Rode K2 เป็นไมโครโฟนหลอดแบบคอนเดนเซอร์ที่สามารถปรับรูปแบบการรับเสียงได้อย่างต่อเนื่อง (Omni, Cardioid, Figure-8) ให้ความอิสระและความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง นอกจากจะมีความทนทานและสร้างจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมแล้ว มันยังให้เสียงที่นุ่มนวลและละเอียด เหมาะกับการบันทึกเสียงในสตูดิโอระดับมืออาชีพ
จุดเด่น:
- รูปแบบการรับเสียงที่ปรับได้อย่างต่อเนื่อง
- หลอด 6922 ที่มีเสียงรบกวนต่ำ
- ความไวเสียงสูงและมีความทนทานสูง
เหมาะสำหรับ: เสียงร้อง, เครื่องดนตรี, ห้องบันทึกเสียงขนาดใหญ่ และการบันทึกเสียงที่ต้องการรายละเอียดสูง
4. Warm Audio WA-47 – ไมโครโฟนหลอดที่จำลองเสียงวินเทจในตำนาน
Warm Audio WA-47 คือการจำลองไมโครโฟนหลอดสไตล์ 47 แบบดั้งเดิมที่ใช้ในยุคทองของการบันทึกเสียง ไมโครโฟนรุ่นนี้ให้เสียงที่อบอุ่น รายละเอียดครบถ้วน และมีความนุ่มนวลในเสียงสูง ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงแบบวินเทจ ใช้ได้ดีทั้งกับเสียงร้องและเครื่องดนตรีอะคูสติก
จุดเด่น:
- จำลองเสียงจากไมโครโฟนวินเทจ 47-Style ที่มีชื่อเสียง
- หลอด 5751 ที่ให้เสียงอุ่นและนุ่มนวล
- รูปแบบการรับเสียง 9 รูปแบบ พร้อมทรานส์ฟอร์เมอร์ AMI จากสหรัฐอเมริกา
เหมาะสำหรับ: เสียงร้องวินเทจ, กีตาร์อะคูสติก, เครื่องสาย, และการบันทึกเสียงในสตูดิโอที่ต้องการเสียงคลาสสิก
5. Avantone CV-12 – ความคลาสสิกในราคาที่เข้าถึงได้
Avantone CV-12 เป็นไมโครโฟนหลอดที่ออกแบบมาให้มีเสียงคล้ายกับไมโครโฟนยุโรปวินเทจในยุค 40s ถึง 60s โดยมีหลอด 6072A ซึ่งเป็นหลอดที่ให้เสียงรบกวนต่ำและมีความไวสูง ไมโครโฟนนี้ยังมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยสีแดง Cabernet และการตกแต่งด้วยนิกเกิลขัดเงา ให้ความรู้สึกพรีเมียมทั้งในแง่ของคุณภาพเสียงและการออกแบบ
จุดเด่น:
- หลอด 6072A ที่มีเสียงรบกวนต่ำ
- 9 รูปแบบการรับเสียงและฟิลเตอร์ตัดความถี่ต่ำ
- โครงสร้างแข็งแรง พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ครบครัน
เหมาะสำหรับ: เสียงร้อง, กีตาร์, กลองโอเวอร์เฮด, และการบันทึกเสียงในสตูดิโอที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
หลังจากจับไมโครโฟนหลอดทั้ง 5 รุ่นมาเปรียบเทียบกันแล้ว จะเห็นได้ว่าทุกรุ่นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและตอบโจทย์ในงานบันทึกเสียงต่าง ๆ หากเพื่อน ๆ ต้องการไมโครโฟนที่เน้นความละเอียดและเสียงที่อุ่น sE Electronics Gemini II จะโดดเด่นตอบโจทย์อย่างมาก ในขณะที่ Warm Audio WA-47 จะเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงวินเทจ หากต้องการความยืดหยุ่นในการบันทึกเสียง sE Electronics Z5600a II และ Avantone CV-12 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ