ถ้าพูดถึงงาน dj Festival แล้ว สิ่งที่ผู้คนที่มางานคาดหวังนอกจากดีเจแล้ว ก็ย่อมต้องเป็นความอลังการงานสร้าง ทั้งเวที สิ่งปลูกสร้างบริเวณรอบงานและแสง สี เสียง แบบจัดเต็มเพื่อให้ทุกคนประทับใจ ซึ่งลงทุนระดับหลายสิบหลายร้อยล้านกับอุปกรณ์แสง สี เสียง ต่างๆ แต่กับเครื่องเล่นดีเจแล้วมันยังไม่มีเครื่องเล่นที่รองรับระบบซาวด์งานใหญ่ๆ แบบนั้นได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และนั่นก็คือที่มาของคอนเซ็ปต์เครื่อง cdj tour-1 และ djm tour-1 จาก ไพโอเนียร์ ที่สร้างมาเพื่องานระดับ Festival โดยเฉพาะ เพื่อให้รับกับชุดเครื่องเสียงมูลค่าหลายสิบล้าน มันมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย

      จุดที่เด่นชัดที่สุดก็คือมีทัชสกรีนจอสีแบบพับได้ขนาด 13 นิ้วติดตั้งมาทั้งเครื่อง cdj tour-1 และ djm tour-1 สามารถเซ็ตได้สารพัดตามความถนัดของแต่ละคน ทั้งเพลย์ลิสต์รายชื่อเพลง, กราฟเพลงพร้อมกัน 4 กราฟและออฟชั่นต่างๆ ให้ปรับแต่งมากมาย มี CPU ในตัวรองรับโปรแกรม rekordbox ซึ่งจะบอกทั้ง bpm, key ทำ loops หา cue point และเอฟเฟ็กต์ต่างๆ มี Qwerty keyboard สำหรับ เสิร์ชหาเพลง สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้า KUVO โชว์เพลงที่กำลังทำการแสดง ส่วนที่บังแดดด้านบนก็ทำหน้าที่ตามชื่อมันเลยครับ ใครที่เคยเล่นกลางแดด หรือเล่นเวทีที่ไฟส่องลงดีเจ จะรู้ว่ามันแทบมองไม่เห็นจอเลย แสงมันสาดลงมากลบหมด ถ้ามีที่บังแบบนี้น่าจะช่วยได้เยอะไม่ต้องเอามือไปป้องแสงเพื่อหาเพลง

ESS Technologies 32-bit D/A Converter

      ด้วย 32bit DAC หรือ Digital to Analog Converter จาก ESS Technologies บริษัททำระบบซาวด์ชื่อดังจะทำให้เราได้เสียงที่ดีและคม ชัดขึ้นอีกมาก ที่สำคัญคือดังสะใจ ยกตัวอย่าง 16 บิทนั้นเราจะได้อยู่ที่ 96.38 เดซิเบล 24 บิทอยู่ที่ 144.4 เดซิเบล และ 32 บิทจะดังถึง 196.22 เดซิเบลกันเลย เรียกได้ว่าคู่ควรกับลำโพงระดับหลายสิบล้านมาก อีกอย่างไฟล์ที่ใช้ก็สำคัญครับ ถ้ายังใช้เป็น mp.3 มันก็คงไม่ได้เห็นความชัดเจนอะไร ไฟล์ที่ควรใช้จึงเป็น wave file หรือ FLAC file ครับ

NEUTRIK etherCON® Connectors

      หลายคนที่เล่นแล้วเชื่อมต่อเครื่องด้วยระบบ LAN คงจะดีใจไม่น้อยที่ใช้ Connector ของ Neutrik มาใช้ เนื่องจากมีระบบล็อกทำให้หมดปัญหาเรื่องช่องเสียบ LAN ที่เสียบเข้าเสียบออกจนหลวม หรือเขี้ยวล็อก LAN หักทำให้เชื่อมติดมั่งดับมั่ง แต่ด้วยตัวล็อคแบบนี้ต่อให้กระโดดจนเวทีสะเทือน หรือเผลอเอาตัวมากระแทกก็ไม่เป็นไรครับ (ตัวนี้อยากให้พัฒนามาใน cdj รุ่นทั่วไปด้วยจะดีไม่น้อยครับ)

AES/EBU Digital Output + Word Clock

       ถือเป็นดีเจมิกเซอร์ตัวแรกของโลกเลยครับ ที่มีช่องเสียบสาย ABS//EBU ที่ช่วยให้เสียงดีมีคุณภาพ แม้จะต่อสายที่ระยะทางไกล แถมยังมี word clock คอยช่วยควบคุมการส่งสัญญาณให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุดอีกด้วย อันนี้ถือว่าใหม่สำหรับผมมากๆ แต่พี่ๆที่อยู่ในวงการเครื่องเสียงน่าจะรู้มากกว่าผม ยังไงแนะนำติชมได้นะครับ

XLR/TRS Aux Input

       ด้วยช่องเสียบมากมายให้คุณได้เชื่อมต่อกับเครื่องเสริมอื่นๆอย่าง drum machines, effectors, synths and samplers ถือว่ามีทางเลือกเยอะดีครับสำหรับทำการแสดง นอกจากนั้นก็ยังมีช่องเสียบ headphone 2 ช่องสำหรับดีเจที่จะมาเซ็ตเพลงต่อจะได้ไม่ต้องฟังเสียงชนกัน สนนราคาชุดนี้ Pioneer dj Tour-1 cdj 4 ตัว + djm 1 ตัว รวมๆแล้วประมาณเกือบๆ 9 แสนเท่านั้นเองครับ… โอ้โห.. สมกับเป็นอุปกรณ์ระดับเฟส ติวัล แพงจริงครับ แต่กับชิ้นส่วนแต่ละชิ้นล้วนทำมาเพื่อเวทีใหญ่จริงๆ และศิลปินดังๆ ตอนนี้ก้ออยากเห็นเจ้าเครื่องชุด Pioneer dj Tour-1 บนเวทีใหญ่ๆกับดีเจดังๆ แล้วอยากฟังฟีดแบกบรรดาดีเจ รวมถึงซาวด์เอนจิเนียร์ด้วย ว่าเค้าคิดยังไง ถ้าเกิดชอบกันขึ้นมาแล้วเกิดอยากจะจองดีเจคนนี้ไปเล่น แล้วเค้ารีเควสต์เครื่องชุดนี้มา สงสัยออแกไนเซอร์คงต้องทำงานกันหนักเลย